สำหรับสถานการณ์ภาพรวมการส่งออกของไทยในปี 2564 จากการประเมินของหน่วยงานต่างๆ ทั้ง
ของรัฐและเอกชน พบว่า การส่งออกมีแนวโน้มฟื้นตัวขึ้น และเบื้องต้นคาดการณ์ว่าจะมีอัตราการขยายตัวที่ประมาณ 4% ทั้งนี้ มีปัจจัยสนับสนุนการส่งออกจากการเริ่มปรับฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก ซึ่งกองทุนการเงิน
ระหว่างประเทศ (IMF) คาดว่าปี 2564 เศรษฐกิจโลกจะมีอัตราการขยายตัวที่ 5.2% จากเดิมที่ติดลบในปี 2563 ที่ 4.4% โดยประเทศกำลังพัฒนาในกลุ่ม Emerging Markets ในเอเชีย (จีน อินเดีย และอาเซียน 5 ประเทศ รวมทั้งไทย) จะมีการฟื้นตัวเร็วที่สุดเทียบกับภูมิภาคอื่นๆ ในขณะเดียวกัน องค์การการค้าโลก (WTO) ยังได้คาดการณ์ว่าการค้าโลกในปี 2564 จะสามารถกลับมาขยายตัวที่ 7.2% นอกจากนี้ ยังมีปัจจัยอื่นๆ ที่ช่วยสนับสนุนการส่งออกร่วมด้วย ได้แก่ การคิดค้นและริเริ่มการฉีดวัคซีนโควิด-19 ทำให้เกิดความเชื่อมั่นต่อสถานการณ์แพร่ระบาดและสภาพเศรษฐกิจเพิ่มขึ้น มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในหลายประเทศส่งผลให้ภาคอุปสงค์มีแนวโน้มขยายตัว ในขณะเดียวกัน การส่งออกยังได้รับผลดีจากทิศทางนโยบายของสหรัฐฯ
ซึ่งเป็นคู่ค้าหลักของไทย โดยประธานาธิบดีคนใหม่ของสหรัฐฯ (นายโจ ไบเดน) มีนโยบายเน้นการยึดถือกฎเกณฑ์การค้าระหว่างประเทศภายใต้กรอบ WTO มากขึ้น และความสำเร็จของการเจรจาความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาค (RCEP) จะส่งผลดีต่อการขยายตัวของการค้าทั้งในภูมิภาคอาเซียน
และนอกภูมิภาคอาเซียน ซึ่งจะช่วยให้เศรษฐกิจของภูมิภาคอาเซียนและไทยฟื้นตัวได้เร็วขึ้นในปีหน้า
โดยกลุ่มสินค้าส่งออกที่คาดการณ์ว่าจะมีแนวโน้มขยายตัวได้ดีในปี 2564 ได้แก่
1. สินค้าอาหาร เช่น อาหารและผลไม้กระป๋อง อาหารแปรรูป เครื่องปรุงรส
2. สินค้าที่เกี่ยวข้องกับการทำงานที่บ้าน (Work from Home) เช่น เครื่องคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ เครื่องใช้ไฟฟ้าและส่วนประกอบ เครื่องโทรสารโทรศัพท์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ ตู้เย็น
ตู้แช่แข็งและส่วนประกอบ เครื่องซักผ้า เฟอร์นิเจอร์และชิ้นส่วน อาหารสัตว์เลี้ยง
3. สินค้าที่เกี่ยวกับการป้องกันการติดเชื้อและลดการแพร่ระบาด ได้แก่ ถุงมือยาง รวมถึง สินค้าและบริการ
ที่เกี่ยวเนื่องกับสุขภาพและสุขอนามัย
โดยบริษัทฯ ซึ่งเป็นผู้ผลิตพาเลทไม้รองสินค้าคุณภาพ พร้อมที่จะเป็นคู่ค้าเพื่อสนับสนุนธุรกิจการส่งออกของท่านต่อไป